เอแดร์สัน โกลมือกาว ไม่ใช่แค่ผู้รักษาประตูธรรมดาค่ะ เขาเป็นนายทวารที่เปลี่ยนภาพจำของตำแหน่งนี้ไปเลย ด้วยความสามารถในการใช้เท้าที่แม่นยำระดับเพลย์เมคเกอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบอลยาวไปถึงแดนหน้าแบบแม่นเป๊ะ หรือการจ่ายสั้นที่ปลอดภัยแต่ยังคงความรวดเร็วในการต่อเกม ทุกอย่างดูไหลลื่นเหมือนเป็นกองกลางตัวทำเกมมากกว่าคนที่เฝ้าเสา ซึ่งตรงนี้แหละค่ะที่ทำให้เป๊ป กวาร์ดิโอล่าหลงรักสไตล์ของเอเดอร์สัน เพราะเขาไม่ได้แค่เซฟเก่ง แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างเกมรุกตั้งแต่จังหวะแรกของทีมด้วย ถ้าใครติดตามเขามาตั้งแต่ยุคเบนฟิก้า จะรู้เลยว่าความแม่นของเท้าเขานั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ฝึกฝนมาอย่างหนักตั้งแต่แรกเริ่มเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของ เอเดอร์สัน กับความฝันในวัยเด็กที่ไม่ธรรมดา
ผู้รักษาประตูแมนซิตี้ เกิดและเติบโตที่เมืองโอซาสโก้ ประเทศบราซิลค่ะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความฝันและความยากลำบากในเวลาเดียวกัน ตอนเด็ก ๆ เขาเริ่มต้นจากการเป็นนักเตะตำแหน่งเอาท์ฟิลด์มาก่อน ก่อนจะค่อย ๆ ขยับมาเป็นผู้รักษาประตูด้วยความบังเอิญที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ความฝันของเขาไม่ใช่แค่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพนะคะ แต่เขามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้รักษาประตูที่แตกต่าง เป็นคนที่ไม่ได้แค่เซฟบอลแต่สร้างเกมได้ด้วย ซึ่งจากเด็กตัวเล็กในย่านชานเมือง วันนี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในนายด่านที่มีสไตล์ไม่เหมือนใครของโลกฟุตบอลแล้วค่ะ แถมยังเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กหลายคนกล้าฝันใหญ่และฝันแหวกแนวออกไปจากกรอบเดิม ๆ ด้วยค่ะ
เส้นทางของ เอเดอร์สัน สู่เวทียุโรป จากริโอ อาเว สู่เบนฟิก้า
หลังจากฝึกฝนทักษะอย่างหนักในบ้านเกิด แอนเดอร์สัน แมนซิตี้ก็ได้โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตค่ะ เขาย้ายไปเล่นกับริโอ อาเว สโมสรในลีกโปรตุเกส ซึ่งตรงนั้นแหละค่ะคือเวทีแรกที่เขาได้โชว์ศักยภาพแบบเต็มตัว ทั้งเรื่องการเซฟบอลที่นิ่งและการใช้เท้าที่ฉลาดแบบที่แฟนบอลเริ่มพูดถึงกันมากขึ้น ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องทำให้เบนฟิก้า ทีมใหญ่ของโปรตุเกส ไม่รอช้า ดึงเขาไปเสริมทัพในปี 2015 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการแจ้งเกิดบนเวทียุโรปจริง ๆ ค่ะ เพราะที่เบนฟิก้า เขาไม่ได้แค่เป็นนายทวารธรรมดา แต่กลายเป็นตัวหลักของทีมในช่วงเวลาไม่นาน และมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ลีก ซึ่งมันก็ปูทางให้เขาไปสู่เวทีระดับโลกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเวลาต่อมาค่ะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับผู้รักษาประตูในอุดมคติของเป๊ปยกให้ เอเดอร์สัน
แนวทางของเป๊ป กวาร์ดิโอล่ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้มองหาผู้รักษาประตูที่แค่ป้องกันประตูเก่งอย่างเดียวค่ะ แต่เขาต้องการคนที่มีความสามารถในการครองบอลและต่อเกมจากแนวลึกได้ ซึ่งเอแดร์สัน โมราเอสก็คือคำตอบที่เป๊ปตามหามานาน ด้วยวิสัยทัศน์การจ่ายบอลยาวที่แม่นยำ ความกล้าในการออกมาตัดบอลนอกกรอบ และทัศนคติที่ไม่กลัวความกดดัน ทำให้เขากลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในแผนของเป๊ปที่เน้นการบุกตั้งแต่หลังบ้านค่ะ
ทำไมเป๊ปถึงมองหา “ผู้รักษาประตูที่จ่ายบอลได้” อย่าง เอเดอร์สัน
เป๊ปเคยให้สัมภาษณ์ไว้เลยค่ะว่า โกล แมนซิตี้ในทีมของเขาต้องไม่ใช่แค่คนที่ป้องกันลูกยิงได้ แต่ต้องเป็น “คนเริ่มเกมบุก” ด้วย เพราะสไตล์ของเป๊ปคือการคุมเกมผ่านการครองบอล และการเริ่มจังหวะจากแนวรับขึ้นไปยังแดนกลางอย่างลื่นไหล ดังนั้นการที่เอเดอร์สันมีความแม่นยำในการจ่ายบอลระดับสูง บวกกับความนิ่งเวลาเจอการเพรสซิ่ง ทำให้เขากลายเป็นคนที่ช่วยลดความเสี่ยง และเปลี่ยนเกมรับเป็นรุกได้ในพริบตาค่ะ
เป๊ปกับ เอเดอร์สัน : ความสัมพันธ์ที่มากกว่าผู้จัดการกับลูกทีม
ความสัมพันธ์ระหว่างเป๊ปกับเอเดอร์สันไม่ได้จบแค่ในสนามซ้อมหรือเกมการแข่งขันค่ะ เป๊ปเชื่อใจเอเดอร์สันในระดับที่ให้เขารับผิดชอบจังหวะสำคัญของเกมอย่างเต็มที่ มีหลายครั้งที่แม้จะมีจังหวะพลาด เป๊ปก็ยังเลือกให้กำลังใจและสนับสนุนเขาต่อไป นั่นเพราะเป๊ปมองเห็นศักยภาพและความเฉียบขาดในตัวเอเดอร์สันที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในผู้รักษาประตูทั่วไป ความไว้เนื้อเชื่อใจนี้แหละค่ะที่ทำให้เอเดอร์สันกล้าเล่นและกล้าตัดสินใจมากขึ้นในทุกเกม
ความแตกต่างจากนายทวารยุคก่อน กับบทบาทใหม่ที่เป๊ปวางไว้ให้ เอเดอร์สัน
ในอดีต นายทวารจะถูกสอนให้เน้นแค่เซฟลูก ยิงมาปัด ยิงมาออก แต่นายทวารในยุคเป๊ปโดยเฉพาะที่แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นเหมือนผู้เล่นตำแหน่งลึกสุดของกองหลังไปแล้วค่ะ เพราะต้องมีบทบาททั้งในเชิงเทคนิคและแท็คติก เอเดอร์สันต้องรู้จังหวะการขึ้นเกมของเพื่อน รู้ว่าจังหวะไหนควรเปิดบอลยาวหรือจ่ายสั้นไปยังใคร ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการอ่านเกมของ เอเดอร์สันอย่างแม่นยำ เรียกได้ว่าเขาไม่ใช่แค่นายทวาร แต่เป็น Playmaker คนสุดท้ายของทีมเลยค่ะ
เอเดอร์สัน กับทีมชาติบราซิล: บทบาทที่ยังค้างคาใจแฟนบอล
แม้เอเดอร์สันจะเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูแมนซิตี้ที่โดดเด่นที่สุดของโลกในระดับสโมสร แต่ในทีมชาติบราซิลบทบาทของเขายังคงค้างคาใจแฟนบอลหลายคนอยู่ค่ะ เพราะตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาต้องแชร์ตำแหน่งมือหนึ่งกับอลิสซอน เบ็คเกอร์ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งนายทวารระดับโลกเหมือนกัน ทำให้โอกาสลงสนามของเอเดอร์สันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ๆ อย่างโคปา อเมริกา หรือฟุตบอลโลก มีน้อยกว่าที่แฟน ๆ คาดหวัง ทั้งที่ศักยภาพและฟอร์มในสโมสรเขาแสดงให้เห็นมาตลอดว่าเหมาะสมกับการเป็นมือหนึ่งได้สบาย ๆ ค่ะ หลายคนจึงยังอยากเห็นเขาได้ลงตัวจริงอย่างต่อเนื่องในทีมชาติ เพื่อพิสูจน์ว่าเขาสามารถเป็นเบอร์หนึ่งของบราซิลได้อย่างแท้จริงค่ะ
บทเรียนจาก เอเดอร์สัน : เล่นให้เด่นในจุดที่คนอื่นมองข้าม
หนึ่งในบทเรียนที่เอเดอร์สัน ผู้รักษาประตูยุคใหม่สอนแฟนบอลแบบไม่ต้องพูดออกมาตรง ๆ ก็คือ “ถ้าทุกคนวิ่งไปทางเดียว ลองหาทางใหม่ของตัวเองดูบ้าง” ค่ะ ในขณะที่ผู้รักษาประตูส่วนใหญ่เน้นการเซฟเป็นหลัก เอเดอร์สันกลับเลือกโฟกัสไปที่การเล่นบอลด้วยเท้า การเปิดบอลแม่น ๆ การอ่านเกมล่วงหน้า แล้วก็พัฒนาสิ่งเหล่านั้นจนกลายเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครเหมือน ซึ่งมันไม่ใช่ทางที่ใครก็จะกล้าเลือกนะคะ เพราะมันเสี่ยงและต่างจากสูตรสำเร็จทั่วไป แต่สุดท้ายเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การเล่นให้เด่นในจุดที่คนอื่นมองข้าม สามารถเปลี่ยนตำแหน่งธรรมดาให้กลายเป็นหัวใจของทีมได้จริง ๆ ค่ะ
สรุป เอเดอร์สัน
เอเดอร์สันคือหนึ่งในผู้รักษาประตูยุคใหม่ที่เปลี่ยนภาพจำของตำแหน่งนี้ไปแบบสิ้นเชิงค่ะ จากนายทวารที่เคยมีหน้าที่แค่เซฟ เขากลายเป็นคนที่เริ่มเกมรุก สร้างความได้เปรียบให้กับทีมด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำแบบกองกลางตัวทำเกม ความสามารถของเขาไม่ได้มาจากพรสวรรค์อย่างเดียว แต่เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนักและกล้าที่จะพัฒนาในสิ่งที่คนอื่นมองข้ามค่ะ ไม่ว่าในทีมแมนฯ ซิตี้หรือทีมชาติบราซิล เขายังคงเป็นตัวอย่างของนักเตะที่เล่นด้วยสไตล์ของตัวเอง และสร้างพื้นที่ใหม่ให้กับบทบาทของผู้รักษาประตูได้อย่างแท้จริงค่ะ