กองหน้าฝรั่งเศส รวบรวมผลงานจากเหล่ากองหน้า ทีมชาติฝรั่งเศสแต่ละคนนั้น โดดเด่นอย่างไรบ้าง
กองหน้าฝรั่งเศส ความเสียใจเดียว บนเส้นลูกหนังของนักฟุตบอลนั่นคือ ความพ่ายแพ้ความผิดหวัง กองหน้าฝรั่งเศส แม้จะมีคำพูดว่าฟุตบอลย่อมมีแพ้มีชนะ ฟุตบอลลูกกลม ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ทว่ามันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย กับชายที่มีชื่อว่า อองตวน กรีซมันน์
adult sex toys
mens adidas ultraboost
Real Hair Wigs
cheap jerseys for sale
custom soccer jersey
nike air jordan 1 low
sex toys online
customized jerseys
cheap human hair wigs
cheap sex toys
custom uniforms
custom basketball jerseys
cheap sex toys
best sex toys
custom basketball jersey
บทความกีฬาที่น่าสนใจ ฟุตบอลคือสิ่งที่ ส่งผลต่อความรู้สึกของกรีซมันน์ ในการก้าวขึ้นมาเป็นแท่งเวิลด์คลาส ได้ผ่านเส้นทางอาชีพ การค้าแข้งมาอย่างมากมาย ทั้งในสีเสื้อของสโมสรและในนามทีมชาติ สำหรับความฝันของนักเตะหลาย ๆ คนคงหนีไม่พ้น การคว้าแชมป์ในทุกๆรายการ
เพื่อที่จะเป็นข้อพิสูจน์ ความสำเร็จในชีวิตของนักฟุตบอลคนนั้น และแม้ว่าเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา มันจะเป็นปีแห่งความสำเร็จสูงสุด ในชีวิตของกรีซมันน์ ที่เขาสามารถพาทีมชาติฝรั่งเศสฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
แต่นั่นเหมือนกับว่า ในเส้นทางแชมป์ที่เขาเดินนั้น มันไม่ได้เจอชายคนหนึ่ง ที่เป็นสุดยอดนักเตะเช่นกัน ซึ่งชายคนนั้นกำลังเป็นคนที่ปล้นชัยชนะ ไปจากตัวของกรีซมันน์ทุกครั้งไป ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ คริสเตียโน โรนัลโด นั่นเอง
ทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก หากเปิดหน้าปฏิทินย้อนกลับไป กรีซมันน์สามารถพาสโมสรแอตเลติโก มาดริดเข้าไปสู่รอบชัยชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2014 ได้สำเร็จ การที่พวกเขาต้องพบกับคู่ปรับ ร่วมมืออย่างเรอัลมาดริด ทีมที่มีแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์อยู่ในทีมมากมาย
กองหน้าฝรั่งเศส รวมไปถึงชายที่มีชื่อว่า โรนัลโด้ เขาเองนั้นจะสามารถ คว้าถ้วยรางวัลใบใหญ่นี้ มาประดับบารมีได้หรือไม่
ซึ่งนอกจากมันจะเป็นเกมดาร์บี้แมตช์ เมืองหลวงสเปน ในนัดชิงของศึกถ้วยยุโรปแล้ว มันยังเป็นการพิสูจน์ตัวเอง ของกรีซมันน์อีกทางหนึ่ง
เพื่อที่จะอัพเกรดโปรไฟล์ กองหน้าฝรั่งเศส ของตน และในเกมนั้นทีมแอตเลติโก มาดริดเกือบทำได้สำเร็จอยู่แล้วเชียว โดยเกมที่ทำท่าว่าจะจบลง ด้วยชัยชนะของแอตเลติโก มาดริด แต่สุดท้ายราชันชุดขาว ก็สามารถตีเสมอได้จนทำให้เกมต้องต่อเวลา
แล้วก็เป็นคริสเตียโน่โรนัลโด้ ที่ยิงจุดโทษลูกสุดท้ายกับเรอัลมาดริด ซึ่งมันเป็นลูกตอกย้ำชัย และมันเป็นประตูที่ส่งให้ เรอัลมาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2014 ได้สำเร็จ รอยแผลแห่งความผิดหวัง ในวันที่กรีซมันน์นั้นพกความมั่นใจ และยัดใส่มันไปในปลายสตั๊ด
มันก็ยังคงไม่ถึงเวลาของเขา ใช้เวลาได้หมุนพากรีซมันน์ กลับมายังจุดเดิม เมื่ออองตวน กรีซมันน์สามารถพาสโมสร เข้าชิงในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้อีกครั้งในปี 2016 และมันเป็นการพบกับ ทีมเดิมอย่างเรอัลมาดริด
และกรีซมันน์เอง ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับคริสเตียโน่ โรนัลโด้อีกครั้งหนึ่ง จากการที่เคยผิดหวังในครั้งก่อน และในเกมนี้เขาต้องการ ที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ด้วยการพาทีมแก้แค้นและสมานแผลใจ ในครั้งเก่าเมื่อปี 2014 ให้ได้
และหลังจากเสียงนกหวีด เป่าหมดเวลาในเกม ทั้ง 2 ทีมยังคงเสมอกัน 1 ประตูต่อ 1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ แพ้ทั้งคู่ก็ยังทำประตูกันไม่ได้ จนอะไรไปถึงการยิงจุดโทษเพื่อชี้ชะตา และกรีซมันน์ได้จับลูกฟุตบอล ไปตั้งไว้ที่กลางเส้นวงกลมอย่างมั่นใจ
และก็ซัดบอลเข้าไปเสียบประตูอย่างสวยงาม แต่ทว่าเขากลับยิงไปชนเสา ทำให้ความได้เปรียบกลับมาอยู่ที่เรอัลมาดริดอีกครั้งหนึ่ง และถ้าลูกสุดท้ายเรอัลมาดริด สามารถยิงจุดโทษ เข้าก็จะเป็นประตูชัยในทันที และคนที่จับบอลลูกสุดท้าย ของเรอัลมาดริดนั่นคือคริสเตียโน่ โรนัลโด้
เมื่อยืนอยู่ที่จุดสังหาร ความเป็นเพชฌฆาตของโรนัลโด้ ก็ได้เปล่งรัศมีหนีออกมา แล้วมันก็ไม่พลาดสำหรับการยิงประตู ของโรนัลโด้ในลูกนั้น และเป็นอีกครั้งที่ประตูนั้น ได้ส่งให้เรอัลมาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และมันก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งวัน ของกรีซมันน์ที่ชีวิตของเขานั้น ยังคงต้องเรียนรู้จากความผิดหวังต่อไป
ในปี 2016 เดียวกันนั้น หลังจากที่กรีซมันน์อกหัก ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และเหมือนกับโชคชะตา ได้ทำให้กรีซมันน์และ โรนัลโด้ ต้องพบเจอกันอีกครั้งหนึ่งในนามทีมชาติ บนเวทียูโร 2016
ในวันที่คราบน้ำตาแห่งความผิดหวัง ได้ไหลออกมาจากชายที่มี ราย ชื่อ ว่าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อเขาได้รับการบาดเจ็บ จนทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก แต่สุดท้ายโรนัลโด้ก็ฝืนความเจ็บปวด ของร่างกายตัวเอง ในการกลับมายืนสั่งการเพื่อร่วมทีม
มันเหมือนกับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กรีซมันน์ กำลังได้เปรียบในโอกาสที่เขา จะสามารถคว้า แชมป์ บอล เหนือโรนัลโด้ได้ กรีซมันน์พยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เขาและทีมส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่าย แต่ทุกความพยายามของกรีซมันน์ มันไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
ทำให้สถานการณ์ ของความเป็นผู้ชนะของฝรั่งเศส กรีซมันน์ดูเปลี่ยนไป และสุดท้ายวินาทีแห่งชัยชนะ มันได้กลายเป็นทางฝั่งของโปรตุเกสแทน ชัยชนะที่โปรตุเกสเอาชนะฝรั่งเศสไปได้ 1 ประตูต่อ 0 แม้ว่าโรนัลโด้จะต้องออกจากการแข่งขัน ไปตั้งแต่ต้นเกม
แต่สิ่งที่เขาทำ มันเหมือนกับว่าเขาได้อยู่กับทุกคนในสนาม และเหมือนกับว่าในวันนั้น นักเตะทีมชาติโปรตุเกส กำลังเล่นอย่างเต็มที่เพื่อเขา และสุดท้ายมันก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่โรนัลโด้ได้ปล้นชัยชนะ ไปจากกรีซมันน์อีกครั้งหนึ่ง
ถึงเขาจะถูกเปรียบเปรย เป็นรถโกคาร์ท แต่ก็เป็นรถที่มีคุณภาพ และได้ใจแฟนบอลหลาย ๆ คน
มาต่อกันที่ กองหน้าฝรั่งเศส นักเตะคนที่ 2 เขาก็คือ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก ซึ่งเขาก็เคยถูกเพื่อนรุ่นทีมเปรียบเปรย ด้วยคำเชิงหมิ่นประมาท แล้วก็เคยเป็นกระแสโด่งดัง ในโลกโซเชียลกันเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนของเขานั้นก็เคยเปรียบเปรยว่า ตนเองนั้นเป็นรถ Formula One
ส่วนตัวชิรูด์นั้นเป็นเพียงแค่รถโกคาร์ท คำพูดที่ว่านี้ ก็กลายเป็นกระแสอย่างมากพอสมควร ว่าคำพูดดังกล่าวนั้น ไม่เหมาะสมเอาซะเลย มีหลายเสียงจากแฟนบอลนั้น ต่างก็สนับสนุนทางด้านของกองหน้าอย่างชิรูด์ ผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส และยังเป็น 11 ตัวจริง ทีมชาติฝรั่งเศส ว่าไม่จำเป็นต้องสนใจกับคำพูดหรือข้อคิดเห็นของเขา
ปล่อยให้เขาพูดอะไรก็พูดไป แล้วในวันนี้เอง เราจึงอยากนำเสนอข้อดี ของกองหน้าอย่างชิรูด์คนนี้ ว่าเขามีดีอะไร ทำไมกุนซือหลายคนนั้น ต่างก็ไว้วางใจในตัวเขา อีกทั้งยังมอบโอกาสที่ดี สำหรับเขามาโดยตลอด
มาเริ่มกันที่ข้อแรกกันเลย ความสามารถในการเก็บบอลและจ่ายบอล เนื่องจากความสูงของเขานั้นก็มีมากถึง 193 เซนติเมตร ซึ่งข้อดีตรงนี้แหละก็เป็นประโยชน์สำหรับทีมอย่างมาก ยกตัวอย่างในขณะที่ต้องไปยืนอยู่ ในกรอบเขตโทษของฝั่งตรง หรืออาจจะเป็นการดวลลูกมิดแอร์
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว กองหน้าฝรั่งเศส ก็ต้องเผชิญหน้ากับตำแหน่งเซนเตอร์ฮาร์ฟ ของอีกฝั่งอยู่บ่อยครั้ง และอีกจุดหนึ่งที่อาจจะเป็นจุดตรงข้ามด้วยซ้ำ แต่การทำหน้าที่ตรงนั้นของเขา ก็ไม่ได้บกพร่องแต่อย่างใด
นั่นก็คือรูปภาพพื้นดินนั่นเอง อยู่ที่เขานั้นสามารถที่จะเก็บบอลไว้กับตัวเอง จากนั้นก็ส่งต่อให้กับเพื่อน เพื่อให้เพื่อนนั้นเล่นได้ อย่างง่ายอย่างมากที่สุด หากคุณนึกภาพนี้ไม่ออก ก็ลองนึกถึงชิรูด์ ในช่วงที่เขานั้นยังสวมเสื้อของทีมชาติฝรั่งเศส
มักจะมีเหล่าจรวดทางเรียบ มาละลายปีกทั้งสองข้างของเขา ไม่ว่าจะเป็นเอ็มบัปเป้หรือว่ากรีซมันน์ก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาที่บอลนั้นขึ้นมาอยู่ที่แดนบน ก็เป็นชิรูด์ที่จะต้องเก็บบอลไว้กับตัวเอง แล้วดึงดูดพวกเหล่าตัวประกบให้อยู่รายล้อมเขา
ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการซื้อเวลาให้กับตำแหน่งปีกทั้งสองฝั่งในทีมนั่นเอง และเพื่อเป็นการหาช่องว่างในการโจมตี และแผนที่ว่านี้มันก็แยกโยนเอามากๆเลย จนอีกฝั่งนั้นอาจจะคิดไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเขาก็ได้กล่าวไว้ว่าโอกาสในการที่เขาจะยิงประตูได้นั้นก็มีเยอะมากพอสมควร
แต่เขาเลือกที่จะหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้กับทีมมากกว่า แล้วเขามองว่าตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด นี่เป็นคำพูดของชิรูด์ที่ได้กล่าวเอาไว้ มาต่อกันที่ข้อที่ 2 กันเลย ทัศนคติของเขานั้นถือได้ว่ายอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอล ที่เก่งกาจหรือว่ายอดเยี่ยมแค่ไหน
แต่หากปราศจาก ซึ่งทัศนคติที่ดีแล้ว ก็อาจจะส่งผลให้จบเห่ได้ ซึ่งข้อดีตรงนี้ชิรูด์นั้นมีอยู่เต็มที่เลยทีเดียว ก็ดีอย่างนึงที่แฟนบอล จะมองเห็นได้จากตัวเก่าอย่างชัดเจน นั่นก็คือการทำงานเป็นทีมเวิร์ค มากกว่าจะมองผลประโยชน์ของเขาเองเป็นหลัก
เขาเลือกที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีมากที่สุด ตามที่บรรดากุนซือนั้น ตั้งใจอยากจะให้เป็น โดยไม่ต้องกังวลเลยว่า จะต้องมาสร้างสกอร์ให้มีปริมาณที่มาก แน่นอนว่าการยิงประตูนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตำแหน่งของเขา และการที่เขามีทัศนคติที่ดีแบบนี้
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เหล่ากุนซือนั้น ก็มักจะเลือกให้เขาเป็นตัวจริง กองหน้าฝรั่งเศส ซะส่วนใหญ่ ด้วยความที่เขามีบุคลิกดีมีบุคลิกที่เหมาะสม ก็เลยได้รับการยกย่องว่า เป็นคนที่ปิดทองหลังพระอยู่เป็นประจำ หรือว่าเป็นตัวจริง ในการปิดทองหลังพระนั่นเอง
ข้อที่ 3 การกระทำของเขานั้น สำคัญกว่าคำพูดอย่างเห็น เมื่อกล่าวถึง ชื่อ นัก บอล ของโอลิวิเยร์ ชิรูด์หลายคนนั้นก็อาจจะนึกถึง ศูนย์หน้าในทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก ที่ทำประตูเป็นศูนย์ เหตุผลก็เพราะว่าใน Tournament ฟุตบอลโลกปี 2018 โอกาสในการลงสนามของเขานั้น ก็ครบ 7 นัดเลยทีเดียว
เขาได้เป็นตัวจริงถึง 6 นัด แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่สามารถที่จะทำสกอร์ได้ ตรงนี้ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ต่อเขาพอสมควร ถึงแม้ว่าจะมีข้อคิดเห็นแล้ว ก็คำวิจารณ์มากมาย ก็ไม่ได้ส่งผลต่อกำลังใจของเขาแต่อย่างใด หากเป็นนักฟุตบอลท่านอื่น
ก็มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะมีการตอบโต้ทางคำพูด แต่สิ่งที่เก๋าแสดงให้เห็นนั้น เขาเลือกที่จะแสดงออกในการทำงาน นั่นก็คือการทำงานอย่างเต็มที่ในสนามซ้อมนั่นเอง และยังรวมถึงผลงานของเขา ในสนามแข่งอีกด้วย ซึ่งผลงานของเขาทั้งหมดนั้น ก็สามารถตอบแต่ละข้อสงสัยได้เป็นอย่างดี
เขาก็ได้รับเสียงชื่นชมกลับมา ว่าเขานั้นเป็น Joker แต่ถึงอย่างนั้น ก็อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีม และเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ซะด้วย
ข้อที่ 4 การยิงประตูของเขาก็ไม่ได้แย่มากนัก แน่นอนว่าเคยมีคำกล่าวเปรียบเปรย ว่าเขาเป็นรถโกคาร์ท แต่หากจะกล่าวถึงสถิติการยิงประตูของเขา ที่ได้รวบรวมมาแล้ว มันก็ไม่ได้แย่ไปกว่า บรรดาหัวหอกที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสโมสรหรือว่าทีมชาติก็ตาม
ลองจำแนกผลงานทำประตูของเขา เฉพาะทีมชาติฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบันนั้น เขาก็ทำไปแล้วกว่า 39 ประตู จากการได้ลงสนามจำนวน 97 นัด อาทิตย์เฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ 0.40 ประตูต่อเกมนั่นเอง ก็นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เลวร้ายนัก
และอาจจะกล่าวถึง ผลงานของเขาในระดับสโมส ดูแล้วก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ เริ่มกันที่สโมสรตูลูส 2 ปี ลงสนามจำนวน 67 นัด เขายิ่งได้ 36 ประตู ที่สโมสรมงต์เปลลิเย่ร์ เขาลงสนาม 85 นัด ยิงประตูได้ 39 ประตู สโมสรอาร์เซนอล ลงสนาม 253 นัด ยิงได้ 105 ประตู
และสุดท้ายสโมสรเชลซีจนถึงปัจจุบัน เขาลงสนามไปแล้ว 76 นัด และสามารถยิงได้ถึง 21 ประตู จากตัวเลขทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็เป็นผลงานที่ถือว่าไม่ได้แย่แต่อย่างใด และนี่เองก็ถือว่าเป็นเหตุผลหลัก ๆ ทั้ง 4 ข้อ ว่าเพราะอะไรบรรดากุนซือ จึงอยากได้เขามาร่วมงาน
และมักจะเลือกเขาอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของผู้เล่นตัวจริง หรือว่าจะเป็นบทบาทของผู้เล่นตัวสำรองก็ตาม ไม่ว่าทีมต้องการอะไร เขาก็คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ซึ่งอาจจะเปรียบเขา เป็นรถโกคาร์ทแล้วล่ะก็ ก็นับว่าเป็นรถโกคาร์ทคันใหญ่ ที่มีคุณภาพมากเลยล่ะ
เนื่องจากการทำหน้าที่ กองหน้าฝรั่งเศส ของเขานั้น ทำได้อย่างเต็มที่แล้วก็ยอดเยี่ยม เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางเลยแต่อย่างใด ไม่เคยบ่นออกมาให้ใครได้ยิน และไม่ว่าจะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าผู้คน หรือว่าแฟนบอลก็ตาม เขาก็ไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด หรือแม้กระทั่งเพื่อนคนที่วิพากษ์วิจารณ์เขาก็ตาม
ทีมชาติฝรั่งเศส 2022 ผู้แพ้ที่สร้างความพึงพอใจ ให้ทั่วโลกเป็นอย่างมากกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้
และปิดท้ายด้วยนักบอลคนที่ 3 อย่างคีลิยัน เอ็มบัปเป้ กับผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ตั้งแต่เกิดมา 30 กว่าปีนี่คือฟุตบอลโลก ที่มันและสนุกที่สุดในชีวิตแล้วล่ะ เพราะในขณะที่อาร์เจนตินา ควรจะต้องเฉลิมฉลอง การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ไปตั้งแต่ครึ่งแรกการนำ 2-0 ไปตั้งแต่ครึ่งแรก
และเล่นได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ฝรั่งเศสก็กลับมาทำฟอร์ม ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ไล่ตามตีเสมอ 2-2 แบบที่ต้องเรียกว่า เหมือนโดนฉุดขึ้นมาจากนรก
และคนที่ทำให้ฝรั่งเศส จากคนที่นอนหายใจรวยริน กลับมามีความหวังอีกครั้ง ต้องยกเครดิตให้กับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงตัวเทพแห่ง ธงชาติฝรั่งเศส นั่นเอง ในช่วงเวลาที่ฝรั่งเศส ตามหลังอาร์เจนตินา 0-2 เอ็มบัปเป้ใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาทียิง 2 ประตูตีเสมอได้อย่างเหลือเชื่อ
แบบชนิดที่เชื่อว่า แฟนบอลในสนามและทางบ้าน ต้องอุทานออกมาพร้อมกันว่า เป้!! มึงโหดจังวะ และต่อให้ทัวร์นาร์เมนต์นี้คีลิยัน เอ็มบัปเป้ต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง แต่ผลงานของเขาในศึกฟุตบอลโลก 2022 จะถูกกล่าวขานตลอดไป
และนี่คือสิ่งที่ กองหน้าฝรั่งเศส จารึกเอาไว้บนผืนฟลอหญ้าเวิลด์คัพ ณ ประเทศกาตาร์ เอ็มบัปเป้เป็นคนที่ 2 ที่ทำแฮตทริกได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ปกติแล้วเรื่องชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ครั้งหลังสุดเนี่ย ไม่ค่อยยิงกันถล่มทลายมากนักหรอกนะ
บ้างก็เฉือนหวิว 1-0 บ้างก็เสมอกันแบบหืดจับ ต้องไปดูกันที่ลูกจุดโทษ หรือไม่ก็ซัลโวกันจนเกมมันขาดไปแล้ว เหมือน 4 ปีก่อน ที่ฝรั่งเศสเอาชนะโครเอเชีย 4 ต่อ 2 นั่นเอง แต่นัดชิงโทรฟี่เวิลด์คัพหนนี้ มันแตกต่างออกไป
เพราะเหมือนว่าอาร์เจนตินา จะคว้าแชมป์แบบสบาย ๆ แต่ก็เป็นเอ็มบัปเป้ที่ปลุกวิญญาณ ทีมชาติฝรั่งเศส 2022 ขึ้นมา ขณะที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ที่ทัพฟ้าขาวขึ้นนำอีกครั้งด้วยสกอร์ 3-2 ก็ยังเป็นน้องเป้คนดีคนเดิม ที่เรียกจุดโทษและเป็นคนยิงเสมอ 3-3 ได้อีกครั้ง
นั่นหมายความว่า เอ็ ม บั ปเป้ กลายเป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ที่สามารถทำแฮตทริก ในนัดชิงชนะเลิศได้ ซึ่ง 92 ปีก่อนหน้านี้ มีเพียงแค่ เซอร์ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่เคยซัลโวใส่เยอรมันตะวันตก เมื่อเวิลด์คัพปี 1966 ในวัย 25 ปี แต่ประธานเป้กลับทำมันได้ ในวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับเรื่องราวของไฮไลท์ กองหน้าฝรั่งเศส ในครั้งหน้า อลิสจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับ นักเตะกองหน้าแมนยู กันต่อบ้าง เชื่อว่า ๆ คนต้องกำลังจับตามองเค้าคนนี้อยู่แน่ ๆ และต้องไม่พลาดกับ ประวัติ-harry-kane ตัวตึงบาซ่าอีกด้วย
และขอเอาใจสายทำอาหารด้วย อาหารฝรั่งยอดนิยม ที่จะพาคุณไปท่องโลกของอาหารนานาชาติ รับรองความอร่อยไม่พักกับบทความนี้ อย่างแน่นอนเชียวล่ะ ที่สำคัญใครที่กำลังหาอะไรดูดึก ๆ ไม่รู้จะดูอะไรดี เรามี รีวิวหนังเอเชีย2023 มาฝากกัน ฝากติดตามด้วยนะ
เขียนโดย อลิส