สุดยอดตัวฟาดของไทย ส่งต่อความเก่งตั้งแต่ พรชัย ถึง ภูตะวัน โสภา
กีฬาเซปักตะกร้อ ถือว่าได้เป็น กีฬาของไทย ที่ได้มีมา ตั้งแต่โบราณแล้ว แต่ก็ไม่ได้ มีหลักฐานแน่นอน ว่าจะเกิดมา ตั้งแต่สมัยไหน แต่ว่าที่แน่ ๆ คนไทยรู้จัก กันอย่างดียิ่ง ถ้าได้พูดถึง สุดยอดตัวฟาดของไทย แบบนี้ก็เป็นอัน รู้กันดีว่า มันคือตัวตบ หน้าเน็ตนั่นเอง
ที่ก่อนหน้านั้น ประเทศของเรา และเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซียนั้น ต่างก็ถือเป็น คู่แข่งคนสำคัญ เพราะว่าทุกครั้ง ที่ได้เห็นมี การที่แข่งขัน กีฬาประเภทนี้ ก็ต้องบอกว่า ได้ทำให้พวกกองเชียร์ รู้สึกหัวใจหวิว เพราะมันสูสีกัน เหมือนกีฬาอื่น ๆ ทั่วไปนั่นเลยค่ะ
และในวันนี้ เราจะได้มี โอกาสนำเอา สุดยอดตัวฟาดของไทย บางตอนของเรื่อง ประวัตินักตะกร้อทีมชาติไทย ที่ได้ไปสร้าง เกียรติประวัติไว้ ในชุดของซีเกมส์ ที่ผ่านมาแล้ว ก็ต้องเรียกว่า เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ของมหกรรม เซปักตะกร้อ ที่ทางทีมไทย ได้ปะทะกับ ทีมเสือเหลืองของมาเลเซีย นั่นเองนะคะ
ฉายาเจ้า มหาประลัย ได้มาอย่างไร ?
และถ้าจะย้อน กลับไปตอนที่ ฮานอยเกมส์ 2003 ทีมไทยได้มีตัวฟาด ที่มีฉายาว่า มหาประลัย ที่ไปแจ้งเกิด กันที่นั่นอย่าง พรชัย เค้าแก้ว
และในตอนนั้น เขาได้กวาดมา 2 เหรียญทองจากทีมเดี่ยวและชุด แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อมาถึง ฮานอย 2022 ชายคนนี้นั้น อายุก็ปาเข้าไป 41 ปีแล้วก็ยังได้ไป เพื่อล่าเหรียญทอง ให้กับทีมไทย ได้อีกนี่สิ เพราะห่างกันนานถึง 19 ปีจึงเรียกได้ว่า กระดูกยังเปรี๊ยะกลายเป็น สุดยอดตัวฟาดของไทย
เพราะว่าตั้งแต่ 2 เหรียญแรกของเขา ตั้งแต่เมื่อปี 2003 เรื่อยตลอดมานั้น เขาผ่านซีเกมส์ไปทั้งหมด 9 ครั้งและทุกครั้ง เขาก็ได้นำ เอาเหรียญทองมา ฝากคนไทยเสมอ และก่อนที่ตัวฟาด ของไทยรายนี้ จะได้เดินทาง เพื่อไปทำลาย สถิติใน ซีเกมส์สุดท้าย และจะปิดฉาก การเล่นเซปักตะกร้อ ไปด้วยวัยที่ 40 กะรัต
และก็ได้เป็นไป อย่างที่เรานั้น ได้เห็นกันแล้ว ใช่ไหมคะว่านักกีฬา เซปักตะกร้อของไทย ได้เหรียญไปตามคาดหมาย ถ้าหากว่าใคร ได้ดูการแข่งขัน ก็จะเรียกว่า สมศักดิ์ศรีมาก ไม่ใช่ได้มาแบบง่าย คือต้องเก่งจริง และนัดที่ได้ ชิงเหรียญทองกับ ทีมอินโดนีเซียนั้น เรียกว่าเกือบจะบีบ หัวใจกันจริง ๆ เลยทีเดียวค่ะ
เหรียญทองได้จาก เซปักตะกร้อ เป็นความคาดหวังของคนไทย
ในการที่ได้ แข่งขันซีเกมส์ ที่ผ่านมานี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 – 23 นั้นก็ได้มี ทีมนักกีฬาไทย ของชุดเซปักตะกร้อ ที่ประกอบกัน มีอยู่ทั้งหมด 4 ทีมซึ่งได้แก่ ชุดทีมชายชุด นักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย ชุดทีมชายเดี่ยว และชุดหญิงเดี่ยว
คราวนี้ได้อยู่ ภายใต้การดูแลของ เฮดโค้ช ที่ต้องเรียกว่าเป็น ปรมาจารย์ได้แก่ โค้ชกมล ตันกินหงส์ ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับ ทีมตะกร้อไทยมาตลอด ก็จะได้แต่ สุดยอดตัวฟาดของไทย คนนี้เลยค่ะ
และหลังจากที่ ทางตัวฟาดอย่าง พรชัย เค้าแก้ว ประกาศว่าจะเป็น ซีเกมส์สุดท้ายของเขา เตรียมตัวเพื่อเป็น นักตะกร้อทีมชาติไทย ที่เป็นอดีต ทำให้ทางทีมตะกร้อไทย ก็ต้องเตรียมหาตัวฟาดใหม่ ซึ่งตอนนี้ที่ ได้ดูแล้วก็เหมือน ว่าจะได้ขึ้นมาติด ทีมชาติแบบใหม่เอี่ยม
แต่มีฝีมือ ที่ไม่ธรรมดา ด้วยเช่นกันและ ก็จะเป็นอีก 2 เหรียญทองแรกที่ ในชีวิตของ นักกีฬาซีเกมส์อย่าง ภูตะวัน โสภา มีฉายาว่า ภูเจ้าเวหา เพราะเจ้าภูของเพื่อน ๆ ตัวฟาดคนนี้ มีลีลาของ การลอยตัวฟาด ที่สูงและหนักหน่วง
หรือว่าจะมีได้ ตัวแทนความสุดยอดอย่าง นักตะกร้อทีมชาติไทย สืบศักดิ์
ด้วยอายุอานาม ที่อยู่ในวัย ที่น่าจะเป็นอีกคน ที่จะเป็นนักล่าเหรียญทอง ให้กับประเทศของเรา และเขานี่แหละเป็น นักกีฬาที่เล่น ซีเกมส์เป็นครั้งแรก เพียงคนเดียวของทีม ที่ได้เดินทาง ไปแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งบรรดาของ กองเชียร์ทีมชาติของไทย ต่างก็มีความคาดหวัง
ว่าเพชฌฆาตหน้าหยกวัย 23 ปี คนนี้จะได้ขึ้นแท่น มาแทนที่รุ่นพี่ ที่กำลังจะปลดระวาง ในเวลาอันใกล้นี้ ทำให้เรื่องราวของ ตัวฟาด จากเมืองหมอแคนอย่าง พรชัย เค้าแก้ว มาจนถึงตัวฟาด เพชฌฆาตหน้าหยก จากอำนาจเจริญเป็นอีก สุดยอดตัวฟาดของไทย ที่จะได้มาเป็น ตัวตายตัวแทนกันได้ ในวงการของ เซปัตะกร้อ ของไทยต่อไป
และก็เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่เชื่อว่า ในเวลาที่ พรชัย เค้าแก้ว ได้ติดธงเป็น ตัวฟาดของทีมชาติไทย และสามารถจะค้า เหรียญทองมาได้ถึง 2 เหรียญและในตอนนั้น ภูตะวัน โสภา เพิ่งจะมีอายุแค่ 3 ขวบเท่านั้นเอง
สุดยอดตัวฟาดของไทย สามารถทำตาม ความฝันอย่างที่ เคยฝันไว้แล้ว สำหรับภูตะวัน
จนมาถึงปีนี้ที่ ภูตะวัน ได้ติดอยู่ที่ รายชื่อนักตะกร้อทีมชาติไทย 2565 แถมได้ติดธงตัวฟาด และได้มีโอกาส เข้าร่วมแข่งขันพร้อมกัน กับตัวฟาดรุ่นพ่อและ นำเอาเหรียญทองกลับมา ด้วยความหน้าชื่นตาบาน
ทำให้ซีเกมส์ล่าสุด เราก็ได้เห็น ลีลารุ่นคุณพ่อ กับหนูน้อยรุ่นลูก ที่ต่างก็เป็น ผู้ที่มีความหลงใหล ในกีฬาชนิดเดียวกัน อย่างเซปักตะกร้อ และติดธงร่วมกัน เรียกว่าเป็นความฝันที่ เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ
โดยตลอดมาหนุ่มน้อย ภูตะวัน โสภา ก็ได้ยึดเอา พรชัย เค้าแก้ว เป็นไอดอลมาเสมอ พอมาถึงช่วงเวลา ที่หนุ่มน้อยผู้นี้ได้มี โอกาสร่วมทัพ ไปกับไอดอลในฝัน แถมยังได้ติดธงเป็น ตัวฟาดเหมือนกัน เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปทำหน้าที่ อันทรงเกียรติเพื่อสร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศไทย
ก็น่าจะถือ ว่างานนี้ทาง พรชัย ก็น่าจะส่ง มอบภารกิจนี้ ให้กับทายาททาง กีฬาเซปักตะกร้อ ที่เป็นคนใหม่อย่าง ภูตะวัน ได้แบบที่ไม่ต้อง มีอะไรน่าห่วง เพราะว่าถ้าเราได้เห็น ว่าฝีไม้ลายมือน้อง ก็ไม่ได้ธรรมดา และน่าจะวัดรอยเท้า คนรุ่นพ่ออย่าง พรชัย ได้แบบหายห่วง อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ
และในที่สุดทีมชาติไทย ก็ปิดจ๊อบติดหนึ่งใน 10 ประเทศ ที่เล่น ตะกร้อ เก่ง ที่สุดในโลก และยังคงผงาด อยู่ในซีเกมส์ และประกาศว่า กีฬาชนิดนี้ คนไทยเป็นเจ้าของ ด้วยการได้คว้า 3 เหรียญทองได้สำเร็จ และได้ปิดฉากเหรียญทอง ของประเภททีมชายได้ ไปตามเป้าหมายอีกด้วย
ทุกท่านสามารถ ติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ได้อีกที่เว็บไซต์ ของเรานะคะ ค้นหาได้ที่หมวดหมู่ บทความกีฬาที่น่าสนใจ ค่ะ
เรียบเรียงโดยNANAMI