กีฬาฟุตบอล ข่าวบอลออนไลน์ ข่าวฟุตบอล ข่าวบอล นักฟุตบอล ผลการแข่งขัน วิเคราะห์บอล ทีเด็ดบอล Real-time Soccer Game scores ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล

Search
Close this search box.
เวอร์จิล ฟาน ไดค์

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังคนสำคัญที่ลิเวอร์พูลขาดไม่ได้

กองหลังที่ ลิเวอร์พูล ต้องหวงแหนไว้ให้ถึงที่สุดอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ปัจจุบันเขาได้สวมเสื้อเบอร์ 4 และ ฟานไดค์ อายุเพียงแค่ 32 ปีด้วยความที่เป็นคนรูปร่างสูงถึง 195 ซ.ม.เป็นนักเตะชาวดัตซ์ และตำแหน่งของเขาก็คือ เซ็นเตอร์แบ็กของสโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูล และแน่นอนว่าเขาต้องเป็นนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ไม่ได้แพ้ ดาวซัลโวลีกเอิง แน่นอน

และใครที่ยังไม่รู้จักเขาคนนี้ ต้องติดตามบทความนี้ให้จบนะคะ เพราะว่าเราจะนำเอาเรื่องราวของ ฟานไดค์ ล่าสุด ที่ถือว่าเป็นคนเก่งอีกคนของทัพ ลิเวอร์พูล มาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบเกี่ยวกับตัวของเขาให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ลิเวอร์พูล

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กับเส้นทางลูกหนังของ กองหลังราคาแพง

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า ฟานไดค์อยู่ประเทศอะไร เขาคนนี้เป็นคนเนเธอร์แลนด์มาตั้งแต่เกิดทำให้เขาก็เลยมีสัญชาติดัตซ์ตามพ่อของเขา ในส่วนของคุณแม่ก็เป็นหญิงสาวที่มาจากประเทศซูรินาม เจ้าหนูฟาน ไดค์ เขาเป็นคนที่มีความหลงใหลในกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว แถมยังมีความฝันที่อยากจะเป็นนักเตะอาชีพอีกต่างหาก เพราะต้องการที่หาเงินมาเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเขา

ในที่สุดสิ่งที่เขาฝันไว้เริ่มจะมีแววว่าเป็นความจริง ด้วยการเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกของ วิลเล่ม ทเว ทูตอนปี 2009 และที่นี่แหละค่ะที่ทำให้เกิดเป็นก้าวแรกของ กองหลังราคาแพง ที่สุดในโลก เขาเริ่มจะกลายเป็นนักเตะ ที่มีระบบระเบียบแบบมีสังกัดซึ่งไม่ใช่เด็กน้อยที่เตะบอลแถวข้างสนามหรือข้างถนนอีกต่อไป

ไม่น่าเชื่อว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ชาวดัตซ์ ได้อยู่ที่ศูนย์ฝึกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ก็เป็นเพราะว่าเขาดันมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม ทำให้มีสโมสรตาไวอย่าง โกรนิงเก้น ที่เป็นสโมสรของฮอลแลนด์ และในปีถัดมาเขาก็ยังคงเล่นในระดับเยาวชนเท่านั้น จนกระทั่งปี 2011 นั่นแหละค่ะเขาถึงโดนดันให้ขึ้นไปเล่นกับพวกทีมชุดใหญ่ และในที่สุดก็กลายเป็นนักเตะระดับอาชีพแบบเต็มตัว

และจากการเซ็นสัญญาในครั้งนี้ ใครจะไปรู้ว่ามันจะกลายเป็นเส้นทางของนักเตะอาชีพที่วงการฟุตบอลกำลังจะได้นักเตะที่ถือว่าเป็นสุดยอดของนักเตะมหัศจรรย์ของเด็กหนุ่มคนนี้

กองหลังราคาแพง

เกมแรกในฐานะนักเตะอาชีพของเขา

แน่นอนว่าเกมแรกที่เขาได้เริ่มเข้าไปอยู่ในวงการนักเตะอาชีพบอกเลยว่าไม่ได้แพ้ รูเบน ดิอาส เขาได้นั่งที่เก้าอี้สำรองและในนาทีที่ 72 นั่นเองที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะทีมได้เจอกับ เดน ฮาก ต่อมาเข้าเพิ่มการพัฒนาฝีเท้า แถมโดดเด่นอีกต่างหาก ทำให้ในที่สุดเขาก็กลายเป็นกำลังหลักของทีม ได้แบบไม่ยาก ซึ่งถ้าเราเห็นจากสถิติถือช่วง 2011-2013 นั้นเขาได้ลงเล่นไปมากถึง 63 เกม

จากการที่ได้โชว์ฟอร์มไปแล้วถึง 63 เกมทำให้วันหนึ่งก็เกิดไปเข้าตา กลาสโกว์ เซลติก จากทีมยักษ์ใหญ่จากลีกสกอตแลนด์ จนทำให้ผู้ใหญ่ของทีมเลยเดินหน้าจีบเขาให้ไปร่วมทีมกับ ม้าลายขาวเขียว จนไปถึงขั้นการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการตอนเดือนมิถุนายน 2013 ด้วยค่าตัวที่เล็กน้อยเพียงแค่ 2.6 ล้านปอนด์ซึ่งครั้งนั้นได้เซ็นสัญญากันยาวถึง 4 ปี

ข้อดีที่เขาเริ่มย้ายเข้ามาเล่นที่นี่ เพราะเขาได้ฝึกความสามารถ และในเกมแรกเขาถูกให้ไปนั่งที่เก้าอี้สำรองอีก แต่คราวนี้ใน 13 นาทีสุดท้าย ที่เกมกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เขาพาทีมเอาชนะ อเบอร์ดีนไปได้ 2-0 และตั้งแต่เกมนี้เป็นต้นไปเขาก็ได้ลงสนามที่เป็นตัวจริงตลอดมาค่ะ ในอีกหลายแมทซ์ที่เขาช่วยให้ทีมได้ชัยชนะ พร้อมกับคว้าแชมป์ลีกในปีนั้นนั่นเองค่ะ และไม่ต้องสงสัยนะคะถ้าจะมี รูปฟานไดค์เท่ๆ ออกมาสู่สายตาชาวโลกเต็ม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ig ไปหมด

และในฤดูกาลต่อมาเขาก็ยังคงตอกย้ำกับการที่เป็นนักเตะ กองหลังราคาแพง ที่ยอดเยี่ยม จนกลายเป็นตัวหลักของทีม ซึ่งทีมไม่สามารถขาดเขาได้เลย นอกจากที่เขาจะโชว์ฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เขายังได้เล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่แน่นอนว่าได้โชว์ฟอร์มให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกสายตา ของแฟนบอลทั่วโลกอีกด้วยค่ะ

รูปฟานไดค์เท่ๆ

สรุปแล้ว ลีกสก็อตน่าจะเล็กไปสำหรับ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ซะแล้ว

เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มจะรู้สึกได้ว่าเขาเริ่มอิ่มตัวจากความสำเร็จกับทีม เซลติกา ทำให้เขาก็เลยคิดว่าลีกสก็อตน่าจะเล็กเกินไปสำหรับเขาซะแล้ว และน่าจะได้เวลาที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ไม่ใช่ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ทำให้เขาก็มองหาเส้นทางนักเตะอาชีพเส้นทางใหม่คือการไปหาประสบการณ์ในลีกอื่นๆ ที่ใหญ่มากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่าลีกที่ใหญ่ที่สุดที่เขาหมายตาก็ต้องเป็น พรีเมียร์ลีก แห่งอังกฤษอยู่แล้ว ทีมแรกที่ทำให้เขาเข้าไปอยู่ในลีกใหญ่ได้แก่ เซาแฮมป์ตัน อีกทีมที่มีชื่อเสียงแห่งลีกอังกฤษ ซึ่งพอดีที่เข้ามาทาบทามเขาในปี 2015 และกองทัพแห่งนักบุญที่มีโค้ช โนนัลด์ คูมัน ก็ได้มาต้อนรับเขาเข้าทีมด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์

นัดแรกที่ ฟานไดค์ ล่าสุด ได้ลงเล่นในฐานะตัวจริงให้กับทีม ที่เจอกันกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ซึ่งเกมนั้นก็เสมอไป 0-0 แต่พอถึงนัดที่สองที่เขาร่วมทีมเขาก็สามารถทำประตูแรกให้กับทีม ด้วยการพังประตูคู่แข่งอย่าง สวอนซี ซิตี้ ซึ่งทำให้แมทซ์นี้เขาพาทีมชนะไปอย่างสวยงามคือ 3-1

และในที่สุดทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ก็มาเทคโอเวอร์เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปด้วยราคาค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ที่ถือว่าเป็นค่าตัวของนักเตะที่แพงที่สุดในโลก และเมื่อมาถึงทีมหงส์แดงอย่างเป็นทางการ เขาก็พาทีมหงส์เอาชนะทันที 2-1 และต่อมาจนปัจจุบันมีเรื่องราวของ ฟานไดค์ ล่าสุด ที่เกี่ยวกับทีมมากมายนับไม่ถ้วน จนในที่สุดก็ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมหงส์นั่นเองค่ะ